เรื่องเล่าชายแดนใต้วันนี้

เรื่องเล่าชายแดนใต้วันนี้เป็นเรื่องของเยาวชนที่เอาดีกับการปลูกผักที่พวกเขาทั้งภูมิใจและสร้างรายได้ให้กับตัวเอง

กลุ่มก๊อลบุลวาฮิด เป็นกลุ่มเยาวชนจิตอาสาพัฒนาสังคมที่รวมตัวและก่อตั้งกลุ่มกันในพื้นที่ตำบลยี่งอ อ.ยี่งอ นราธิวาส ที่ริเริ่มจากกิจกรรมขยะความดีโดยรณรงค์ให้ชุมชนดูแลและจัดการขยะในครัวเรือนและพวกเขาร่วมเป็นจิตอาสาเก็บขยะในชุมชนมาแปรสภาพเพื่อขายและตั้งเป็นกองทุนช่วยเหลือเด็กกำพร้าและยากจนในชุมชน

สำหรับจุดเริ่มต้นและความสนใจเรื่องปลูกผักนั้น นายลุกมาน มามะ ประธานกลุ่มก๊อลบุลวาฮิดเล่าให้ฟังว่า เริ่มจากเขาพากลุ่มเยาวชนก๊อลบุลวาฮิดไปเยี่ยมชมดูงานการส่งเสริมอาชีพการเกษตรของเครือข่ายสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริในพื้นที่นราธิวาส น้องๆ เยาวชนกลุ่มหนึ่งที่ไปดูงานสนใจอยากปลูกผักด้วย ความตั้งใจของพวกเขาได้รับการตอบสนองเมื่อมีผู้ใหญ่ใจดีให้ที่ดิน 6 ไร่กว่าเป็นที่ปลูกผัก เลี้ยงปลา และได้รับการสนับสนุนเงินช่วยเหลือสำหรับดำรงชีพส่วนหนึ่งจากมูลนิธิรากแก้ว สำหรับจัดตั้งกองทุนสนับสนุนให้เยาวชนทำการเกษตรให้มีรายได้ต่อไปได้อย่างมั่นคง ซึ่งตอนนี้มีเยาวชนที่ทำโครงการจำนวน 5 คน ในจำนวนนี้ 3 คนเป็นนักเรียนที่ใช้เวลาก่อนและหลังเลิกเรียนมาดูแลผักของตัวเอง แต่ในช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอมจึงมีเวลาดูแลผักอย่างเต็มที่

นายฮากัน บือราเฮง เยาวชนที่ร่วมโครงการและเป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิรากแก้วเล่าให้ฟังว่า ในพื้นที่เพาะปลูกกว่า 6 ไร่ ตอนนี้พวกเขาปลูกพืช 17 ชนิด เน้นเป็นผักสวนครัว ทั้งถั่วฟักยาว พริกหยวก มะเขือยาว ข้าวโพดหวาน ผักบุ้งจีน กวางตุ้งที่เป็นผักปลูกในแปลง และยังมีผักสลัดแก้ว เรดโอ๊ค ที่เพาะปลูกแบบประณีต ปลูกแบบยกพื้นซึ่งเป็นสลัดที่มีราคาสูง นอกจากนี้มีมะละกอพันธุ์ฮอลแลนด์ มะนาวในบ่อซีเมนต์ กล้วย และในบริเวณเดียวกันมีบ่อเลี้ยงปลาที่มีปลานิล ปลาบ้า และปลาดุก ผักสวนครัวที่ปลูกตอนนี้สามารถขายได้ทั้งหมดและไม่พอกับความต้องการของลูกค้าด้วย เรียกได้ว่าปลูกตามออเดอร์เพราะมีคนสั่งจองและต้องจัดส่งให้เกือบทุกวัน ทั้งร้านค้าในตลาด รวมทั้งโรงพยาบาลและลูกค้าทั่วไปที่มักจะมารับซื้อถึงที่ซึ่งผักสวนครัวที่นี่ปลูกและดูแลโดยไม่ใช้สารเคมี เป็นการปลูกแบบออแกนิกส์ทั้งหมด ส่วนปลาที่เลี้ยงได้ประสานกับพ่อค้าทำปลาส้มมารับซื้อแล้ว แต่ช่วงนี้ติดปัญหา Covid-19 จึงต้องชะลอไว้ก่อนแบบไม่มีกำหนด สำหรับรายได้จากผลผลิตในเดือนมีนาคมที่ได้จากการขายกล้วย ผักสลัดและผักบุ้งจีนจำนวน 2,580 บาท นอกจากรายได้จากผลผลิตแล้วเยาวชนกลุ่มยังมีรายได้จากการทำงานเป็นผู้ช่วยนายช่างในการสร้างโรงเรือนเพราะปลูกผักและยังมีรายได้ส่วนหนึ่งที่เป็นเงินสนับสนุนจากมูลนิธิรากแก้วเพื่อเป็นค่าดำรงชีพให้กับเยาวชนด้วย

ด้านการพัฒนาต่อยอด ตอนนี้พวกเขากำลังเตรียมการสำหรับเพาะปลูกพืชในบ่อซีเมนต์เพิ่ม เตรียมแปลงปลูกฝรั่งกิมจู ปรับปรุงโรงเพาะเห็ด การปรับปรุงระบบกระจายน้ำเข้าในแปลง รวมทั้งกำลังเตรียมการทำร้านค้าหน้าแปลงงานด้วย อีกทั้งพวกเขายังได้รับการสนับสนุนด้านความรู้ วิชาการจากศูนย์ฝึกอาชีพของวิทยาลัยการอาชีพนราธิวาสที่กำลังพัฒนาสู่เกษตรอัจฉรียะแบบ smart farmer ที่มีระบบการใช้แอพลิเคชั่นและใช้โทรศัพท์มือถือในการควบคุมระบบการให้น้ำ การดูแลการเกษตร (ขอบคุณนายฮากัน บือราเฮง สำหรับข้อมูล/ภาพ)